สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องวัสดุก่อสร้างหรือคุณสมบัติของวัสดุแต่ละประเภท แต่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญหรือคุ้นเคยกับงานช่างเฉพาะทาง อาจจะมีข้อสงสัยว่า ‘เหล็กดำ’ และ ‘เหล็กกัลวาไนซ์’ ซึ่งเป็นวัสดุหลักในงานโครงสร้างนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? ใช้งานคนละประเภทหรือไม่?
SB Steel จะพาไปทำความรู้จักเหล็กทั้ง 2 ชนิดให้ชัดเจนมากขึ้น เจาะลึกทั้งคุณสมบัติ ลักษณะเฉพาะ รวมทั้งการใช้งานที่เหมาะสมกับงานก่อสร้างแต่ละประเภท เพื่อการใช้งานที่คุ้มค่าและปลอดภัย
เหล็กดำคืออะไร?
เหล็กดำ คือ เหล็กรูปพรรณที่มีผิวสีดำ ผลิตจากการหล่อหรือนำเหล็กมารีดขึ้นรูป โดยไม่ผ่านกระบวนการจุ่มร้อนหรือเคลือบสารกันสนิม ทนทาน รับน้ำหนักได้มาก หาซื้อง่าย และราคาไม่สูง จึงนิยมนำมาใช้เป็นโครงสร้างหลัก เช่น ท่อเหล็กดำ เหล็กกล่อง เหล็กแบน เป็นต้น แต่จำเป็นต้องทาสีรองพื้นก่อนใช้งาน ที่สำคัญ คุณควรเลือกซื้อเหล็กดำที่มีการรับรองตามมาตรฐาน มอก. ทุกครั้ง
ข้อดีของเหล็กดำ
- ทนทาน รับน้ำหนัก รับแรงดันจากลม และแรงเสียดทานได้มาก
- น้ำหนักเบา ตะเข็บเรียบ
- ราคาถูก หาซื้อง่าย
- เหมาะสำหรับงานโครงสร้างหลัก อาทิ หลังคา คาน รั้ว หรือโครงสร้างอาคารที่ต้องรับน้ำหนักมาก
เหล็กกัลวาไนซ์คืออะไร?
เหล็กกัลวาไนซ์ (Galvanizing Steel) คือเหล็กที่ผ่านกระบวนการเคลือบหรือชุบสังกะสี ช่วยป้องกันการเกิดสนิม ทนต่อการกัดกร่อน ใช้งานได้ยาวนาน และมีราคาสูงกว่าเหล็กทั่วไป ซึ่งเหล็กกัลวาไนซ์สามารถนำมาขึ้นรูปได้หลากหลายเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น เหล็กตัวซี เหล็กกล่องเหลี่ยม เหล็กกล่องแบน และเหล็กท่อกลม
ข้อดีของเหล็กกัลวาไนซ์
- ทนต่อการเกิดสนิมและการกัดกร่อนได้ดี
- ประหยัดเวลา ลดขั้นตอนการทาสีเคลือบหรือป้องกันสนิม
- น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
- เหมาะสำหรับการก่อสร้างภายนอกที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก อาทิ โครงสร้างหลังคาและโครงสร้างขนาดเล็ก
เปรียบเทียบคุณสมบัติ เหล็กดำและเหล็กกัลวาไนซ์

เมื่อรู้จักเหล็กดำและเหล็กกัลวาไนซ์กันดีแล้ว ต่อไปเราจะลองเปรียบเทียบคุณสมบัติต่าง ๆ ให้เห็นชัด ๆ เพื่อช่วยตัดสินใจซื้อเหล็กมาใช้งานอย่างเหมาะสมและตรงตามวัตถุประสงค์ของการก่อสร้าง
คุณสมบัติเหล็กดำ
- ความทนทาน : ทนทานสูง รับน้ำหนักได้ดีกว่า
- การเกิดสนิม : เกิดสนิมง่าย
- การดูแลรักษา : ควรทาสีกันสนิทก่อนใช้งาน จัดเก็บในสถานที่ปิดและมีอุณหภูมิพอเหมาะ
- อายุการใช้งาน: ใช้งานได้ไม่ยาวนานเท่าเหล็กกัลวาไนซ์
- เหมาะสำหรับ : โครงสร้างหลักของอาคาร
คุณสมบัติเหล็กกัลวาไนซ์
- ความทนทาน : ทนทานสูง รับน้ำหนักได้ระดับปานกลาง
- การเกิดสนิม : โอกาสที่จะเกิดสนิมมีน้อย
- การดูแลรักษา : ดูแลรักษาง่าย ไม่จำเป็นต้องทาสีเคลือบสนิม แต่ควรจัดเก็บในสถานที่ที่มีอุณหภูมิพอเหมาะ
- อายุการใช้งาน: ใช้งานได้ยาวนานกว่าเหล็กดำ
- เหมาะสำหรับ : โครงสร้างรองของอาคาร
จริง ๆ แล้ว เหล็กทั้ง 2 ชนิดก็มีสิ่งที่คล้ายกันหลายอย่าง เช่น ความทนทาน การประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย และหาซื้อได้ง่ายตามร้านเหล็กชั้นนำทั่วไป แต่ก็มีความแตกต่างในเรื่องของคุณสมบัติความทนทานต่อการเกิดสนิม ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลต่อราคาของเหล็กและระยะเวลาในการก่อสร้างอีกด้วย
เหล็กดำและเหล็กกัลวาไนซ์ มีปัญหาการเกิดสนิมไหม?
ไม่ว่าจะเป็นเหล็กหรือวัสดุประเภทไหน หากใช้งานยาวนาน อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยากจะควบคุม อาทิ อุณหภูมิ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ รวมทั้งขั้นตอนการก่อสร้าง ก็อาจจะส่งผลให้เหล็กเสื่อมสภาพหรือเกิดสนิมได้เช่นกัน เพียงแต่เหล็กกัลวาไนซ์ที่มีการเคลือบสารกันสนิมก็จะเกิดสนิมช้ากว่าเหล็กดำที่ปราศจากสารเคลือบดังกล่าว มาดูกันว่าเหล็กดำและเหล็กกัลวาไนซ์เสี่ยงต่อการเกิดสนิมได้อย่างไรและควรดูแลอย่างไร
- เหล็กดำ: เกิดสนิมได้ง่ายและอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก อาทิ ความร้อน ความชื้น ซึ่งสามารถดูแลและป้องกันสนิมได้ง่าย ๆ ด้วยการทาสีเคลือบกันสนิมและใช้งานให้ถูกประเภท เช่น เหล็กสำหรับภายในอาคารและภายนอกอาคาร
- เหล็กกัลวาไนซ์: เกิดสนิมได้ยากและมีอายุการใช้งานยาวนาน แต่หากอยู่ในสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะทำให้เกิดสนิมได้เช่นกัน จึงควรเลือกใช้เหล็กให้เหมาะกับสถานที่และการใช้งาน
ราคาเหล็กดำและเหล็กกัลวาไนซ์แตกต่างกันอย่างไร
โดยปกติแล้วเหล็กดำจะมีราคาถูกกว่าเหล็กกัลวาไนซ์ เพราะเหล็กกัลวาไนซ์มีกระบวนการชุบสีกันสนิมซึ่งต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูง แต่จริง ๆ แล้วคุณสามารถกำหนดงบประมาณและเลือกซื้อเหล็กได้ตามความเหมาะสมของงานก่อสร้าง
นอกจากนี้ ราคาเหล็กในตลาดยังมีการปรับขึ้นลงรายวันตามตลาดโลก ราคาเหล็กดำและราคาเหล็กกัลวาไนซ์ก็เช่นกัน โดยราคาเหล็กกัลวาไนซ์มีราคาสูงกว่าเหล็กดำ เฉลี่ยที่ 15-25% ขึ้นอยู่กับขนาด ความยาว และความหนาของเหล็กที่ต้องการซื้อ >> เช็คราคาเหล็กวันนี้ จาก SB Steel
สรุปเหล็กดำ vs เหล็กกัลวาไนซ์ ควรเลือกใช้เหล็กแบบไหนดี?
การเลือกใช้เหล็กให้ถูกประเภทและเหมาะสมกับการใช้งาน คุณควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้
- โครงสร้างอาคารต้องการรับน้ำหนักมากหรือน้อย หากเป็นโครงสร้างรองที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก ใช้เหล็กกัลวาไนซ์ก็เพียงพอแล้ว แต่หากเป็นโครงสร้างหลักก็ควรเลือกเป็นเหล็กดำ
- ก่อสร้างภายในหรือภายนอกอาคาร เพราะสภาพอากาศ ความร้อน ความชื้น และอุณหภูมิก็ส่งผลต่อความเสื่อมสภาพของเหล็ก หากเป็นงานโครงสร้างภายนอกที่ทนต่อการกัดกร่อน
- ขนาดและความหนาของเหล็ก ก็ควรเลือกให้ตรงตามหลักวิศวกรรมเพื่อโครงสร้างที่ปลอดภัยและทนทาน
- ต้นทุนและระยะเวลาในการก่อสร้าง ก็เป็นอีกปัจจัยในการเลือกใช้เหล็ก เพราะเหล็กกัลวาไนซ์อาจจะมีราคาที่สูงกว่า แต่ติดตั้งไว ใช้งานง่าย ลดแรงงานในการทาสีเคลือบกันสนิมได้ ต่างจากเหล็กดำที่ต้องมีระยะเวลาในการทาสีรองพื้นและทาเคลือบกันสนิทก่อนนำมาก่อสร้างทุกครั้ง ซึ่งต้องรอให้แห้งเป็นวัน ๆ
เลือกซื้อเหล็กคุณภาพ ครบทุกแบบ ราคาโรงงานที่ SB Steel

SB Steel หรือ บริษัท ทรัพย์สมบูรณ์ สตีล (อึ้งเชียงหมง) จำกัด คลังเหล็กคุณภาพสูงที่จัดจำหน่ายเหล็กกว่า 1,300 รายการในราคาโรงงานมากว่า 40 ปี พร้อมส่งเหล็กทุกประเภทถึงไซต์งานทั่วประเทศ พร้อมรับประกันคุณภาพสินค้าทุกชิ้น นอกจากนี้ เรายังมีทีมช่างมากประสบการณ์ที่คอยให้คำแนะนำและตรวจสอบคุณภาพเหล็กก่อนส่งมอบทุกครั้ง เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายและช่างเองก็มั่นใจในบริการของเรา
ขอคำปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของ SB Steel สามารถติดต่อได้ที่ Line: @sbsteel หรือ โทร. 093-508-2999 (ฝ่ายขาย)